tag:blogger.com,1999:blog-23294086450500012912023-10-02T17:13:36.863+07:00วิธีรักษาสิวด้วยตัวเองแบบธรรมชาติ สมุนไพรรักษาสิว หลุมสิว รอยดำจากสิวแนะนำวิธีรักษาสิวด้วยตัวเองแบบเห็นผล เน้นวิธีรักษาสิวแบบธรรมชาติโดยใช้สมุนไพรรักษาสิวเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีสูตรรักษาหลุมสิวและวิธีรักษารอยดำจากสิวที่สามารถทำได้เองที่บ้านGustdiihttp://www.blogger.com/profile/04580720651699750937noreply@blogger.comBlogger20125tag:blogger.com,1999:blog-2329408645050001291.post-20919801468514919092018-03-16T23:58:00.000+07:002018-03-17T00:02:40.032+07:00สมุนไพรรักษาฝ้าด้วยน้ำมันละหุ่ง <br />
ฝ้าถือเป็นปัญหาสำคัญของผู้หญิงอย่างมากเลยนะครับ เพราะด้วยแสงแดดในตอนนี้ของบ้านเรานั้นก็สามารถที่จะเผาใบหน้าอันสวยงามของเราไปได้เช่นกัน ซึ่งหลายๆ คนที่มีปัญหาเรื่องฝ้าอยู่นั้นก็ได้พยายามรักษาจนสุดความสามารถ แต่บางคนฝ้ากลับดำขึ้นมากกว่าเดิมอีกด้วยซ้ำไป ดังนั้นการรักษาฝ้าด้วยสมุนไพร ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจอยู่เช่นกันนะครับ ซึ่งน้ำมันละหุ่ง ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ที่สามารถรักษาได้จริงๆ นั่นเอง<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://4.bp.blogspot.com/-IiueqPTk8vU/Wqv2ykvNScI/AAAAAAAACP4/jR5OZv5HBz8yAmvUgnaefy9388whoarOgCEwYBhgL/s1600/Castor_oil_%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B3%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2587.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" data-original-height="417" data-original-width="655" height="253" src="https://4.bp.blogspot.com/-IiueqPTk8vU/Wqv2ykvNScI/AAAAAAAACP4/jR5OZv5HBz8yAmvUgnaefy9388whoarOgCEwYBhgL/s400/Castor_oil_%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B3%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2587.jpg" width="400" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">น้ำมันละหุ่งสมุนไพรรักษาฝ้า</td></tr>
</tbody></table>
<br />
น้ำมันละหุ่ง นั้นก็อุดมไปด้วย วิตามินอี ไตรกลีเซอไรด์ ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ <a href="https://vrscr888.com/">scr888ไทย</a> ใช้มานานหลายศตวรรษ โดยสามารถที่จะรักษาฝ้าได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว โดยการเรานั้นเอาน้ำมันละหุ่งนั้นมานวดทุกวัน ก็จะทำให้ฝ้าบนใบหน้าของเรานั้นจางลงได้เป็นอย่างดีนั่นเอง ทำให้หน้าของเรานั้นชุมชื้นขึ้นอีกด้วยนั่นเอง แถมยังลดริ้วรอย ลดแบดทีเรียบนใบหน้า ลดสิว ได้เป็นอย่างดีอีกด้วยนอกจากการรักษาฝ้าแล้วนั้น ก็ยังสามารถที่จะนำมาเป็นส่วนผสมในการล้างเครื่องสำอางค์ได้อีกด้วย ซึ่งการรักษาฝ้าด้วยน้ำมันละหุ่งนั้นก็ควรที่จะใช้เช้าเย็นนะครับ ซึ่งถ้าใช้เป็นประจำรับรองเลยว่าจะทำให้หน้าของเราชุ่มชื้น กระจ่างใส่ รอยดำฝ้า และกระบนใบหน้าต่างๆ นั้นก็จองลงได้เป็นอย่างดีนั่นเอง เอาเป็นว่าของดีราคาถูกด้วยสมุนไพรนั้นก็รีบไปซื้อมาใช้กันได้เลยนะครับ รับรองหน้าของเราที่เป็นฝ้าก็จะหายดีเป็นปกติแน่นอน โดยเรานั้นจะค่อยๆ เห็นผลของการเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 3 อาทิตย์เท่านั้นGustdiihttp://www.blogger.com/profile/04580720651699750937noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2329408645050001291.post-5108693759280521862013-11-05T01:36:00.000+07:002013-11-05T16:12:26.668+07:00สูตรรักษาสิวที่หลังแบบธรรมชาติ ลองเอาไปทำดูน่ะถ้าพูดถึงเรื่องสิวคงไม่มีใครอยากจะเป็น ยิ่งถ้าเป็น<b>สิวที่หลัง</b>แล้วล่ะก็ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ แต่บางครั้งเราก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงมันได้ หากคุณเป็นคนนึงที่กำลังประสบปัญหาเรื่องสิวที่หลังและกำลังมองหา<b>วิธีรักษาสิวที่หลัง</b>อยู่ละก็ วันนี้เรามีข่าวดีเกี่ยวกับ<b>วิธีรักษาสิวที่หลังแบบธรรมชาติ</b>มาแนะนำ เพื่อนๆ ลองนำเอาไปทำดูน่ะครับ เผื่อบางทีอาจจะช่วยลดสิวหรือรักษาสิวที่หลังให้หายขาดก็ได้ เรามาดูกันครับ<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://1.bp.blogspot.com/-T69niemhLX0/UnfoXu2oeQI/AAAAAAAABP8/sfCfQ8yHDJg/s1600/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="วิธีรักษาสิวที่หลัง" border="0" height="300" src="http://1.bp.blogspot.com/-T69niemhLX0/UnfoXu2oeQI/AAAAAAAABP8/sfCfQ8yHDJg/s400/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4.jpg" title="สุดยอดวิธีรักษาสิวที่หลังแบบธรรมชาติ" width="400" /></a></div>
<br />
<h2>
สูตรรักษาสิวที่หลังแบบธรรมชาติ</h2>
<br />
<h3>
รักษาสิวที่หลังด้วยว่านหางจระเข้</h3>
ว่านหางจระเข้เรียกได้ว่าเป็น<b>สมุนไพรรักษาสิว</b>ที่หลังอย่างนึงก็ว่าได้ เดี๋ยวนี้ว่านหางจระเข้ถูกนำมาแปรรูปเพื่อให้ง่ายต่อการใช้มากขึ้น ดังนั้น หากบ้านใครไม่ได้ปลูกว่านหางจระเข้เอาไว้ก็ลองไปถามดูตามร้านขายยาทั่วไป จะมีพวกเจลว่านหางจระเข้แบบเป็นขวดขายด้วย จำไม่ได้ละว่ายี่ห้ออะไร เอาเป็นว่าลองไปถามดูที่ร้านขายยาเองน่ะ เดี่ยวจะหาว่าแอบเนียมโปรโมทสินค้า อิอิ ว่านหางจระเข้มีสรรพคุณในการรักษาสิวที่หลังได้เป็นอย่างดี โดยช่วยลดการบวมแดง อักเสบของสิวที่หลัง นอกจากนั้นว่านหางจระเข้ยังมีฤทธิ์ช่วยในการสมานแผลรักษารอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวที่หลังได้อีกด้วย วิธีใช้ก็ง่ายๆ เลยให้เรานำว่านหางจระเข้มา แกะเอาเฉพาะเจลตรงกลางมา ถ้าให้ดีผมชอบเอาไปแช่เย็นในตู้เย็นก่อน แล้วเอามาทาให้ทั่วบริเวณแผ่นหลังที่มีสิว แนะนำว่าควรจะทาว่านหางจระเข้หลังจากที่อาบน้ำ ชำระล้างร่างกายให้สะอาดก่อน<br />
<u><span style="font-size: x-small;"><b><br /></b></span></u>
<u><span style="font-size: x-small;"><b>บทความที่เกี่ยวข้อง:</b></span></u><br />
<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2012/04/using-egg-white-blackhead-mask.html">สูตรมาร์คหน้าด้วยไข่ขาว รักษาสิวหัวดำ</a><br />
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" style="width: 322px;"><colgroup><col width="322"></col></colgroup><tbody>
<tr height="19">
<td align="left" height="19" style="height: 14.25pt; width: 242pt;" width="322"><a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2013/01/how-to-use-fresh-garlic-to-cure-acne.html">มาดู! สูตรกระเทียมรักษาสิว ไม่ลอง ไม่รู้</a><br />
<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2013/01/blog-post.html">มะเขือเทศรักษาสิว เคยลองกันรึยัง??? </a></td>
</tr>
</tbody></table>
<h3>
น้ำส้มแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์แก้สิวที่หลัง</h3>
วิธีรักษาสิวที่แผ่นหลังแบบธรรมชาติอีกวิธีนึงคือ การใช้น้ำส้มแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ โดยคุณสมบัติของน้ำส้มแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์จะช่วยรักษาสิวบนแผ่นหลังโดยการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวที่หลัง และยังช่วยดูดซับความมันส่วนเกินที่ผิวหนังบริเวณแผ่นหลังผลิตออกมาให้สมดุล วิธีการใช้น้ำส้มแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์รักษาสิวที่หลัง ทำได้ง่ายๆ ตามนี้ครับ ให้เจือจางน้ำส้มแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ก่อน โดยใช้อัตราส่วนน้ำส้มแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ 10% น้ำเปล่า 90% จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ไปทาให้ทั่วบริเวณแผ่นหลังที่มีสิว ถ้าจะให้เห็นผลดียิ่งขึ้นควรจะเพิ่มปริมาณความเข้มข้นของน้ำส้มแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ขึ้นไปเรื่อยๆ (แนะนำว่าค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละนิด) จนถึงจุดที่ว่าเมื่อนำส่วนผสมมาทาสิวที่หลังแล้วรู้สึกมีอาการแสบนิดๆ ให้หยุดเพิ่มความเข้มข้น ถ้าน้ำส้มแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์เข้มข้นเกิดไปอาจจะทำให้ผิวหนังบริเวณแผ่นหลังของเรามีอาการระคายเคืองได้<br />
<br />
<u><span style="font-size: x-small;"><b>บทความที่เกี่ยวข้อง:</b></span></u><br />
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" style="width: 322px;"><colgroup><col width="322"></col></colgroup><tbody>
<tr height="19">
<td align="left" height="19" style="height: 14.25pt; width: 242pt;" width="322"><a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2013/05/how-to-get-rid-of-dark-spots-from-acne.html">วิธีลดรอยดำจากสิวด้วยมะเขือเทศสด</a></td>
</tr>
</tbody></table>
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" style="width: 322px;"><colgroup><col width="322"></col></colgroup><tbody>
<tr height="19">
<td align="left" height="19" style="height: 14.25pt; width: 242pt;" width="322"><a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2013/06/cucumber-face-mask-for-acne.html">แตงกวา สูตรรักษาสิวด้วยวิธีธรรมชาติ</a></td>
</tr>
</tbody></table>
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" style="width: 322px;"><colgroup><col width="322"></col></colgroup><tbody>
<tr height="19">
<td align="left" height="19" style="height: 14.25pt; width: 242pt;" width="322"><a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2012/06/sea-salt.html">รักษาสิวที่หลังด้วยเกลือทะเล(Sea salt)</a></td>
</tr>
</tbody></table>
<h3>
กำจัดสิวที่หลังด้วยทีทรีออย์ (Tea Tree Oil)</h3>
นำทีทรีออย์ มาทาบริเวณแผ่นหลังที่มีสิวจะช่วยรักษาสิวที่หลังได้เนื่องจากทีทรีออย์ จะสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวที่หลังได้เช่นเดียวกับน้ำส้ม Apple Cider วิธีการใช้ก็ง่ายๆ นำทีทรีออย์ มาทาให้ทั่วแผ่นหลัง แต่ระวังสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ควรจะทดลองทาทีทรีออย์เพียงเล็กน้อยดูก่อน หากพบว่ามีการระคายเคืองหรือแพ้ ก็ควรงดใช้ และหาวิธีรักษาสิวที่หลังวิธีอื่นแทน<br />
<br />
วิธีรักษาสิวที่หลังแบบธรรมชาตินั้น มีหลายวิธี ตอนนี้คงไม่สามารถการันตีได้ว่าวิธีไหนเห็นผลแน่นอน เพราะแต่ละคนจะมีสภาพผิวที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น ควรลองทำหลายๆ วิธี แต่แนะนำว่าก่อนที่จะลองวิธีรักษาสิวที่หลังวิธีอื่น ควรทดสอบในปริมาณน้อยๆ ก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าวิธีรักษาสิวที่หลังที่เรากำลังจะใช้ จะไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองต่อผิวแผ่นหลังของเรา<br />
<br />
วันนี้ข้อมูลดีๆ ที่นำมาฝากเพื่อนๆ คงมีแค่นี้ หากใครคิดว่าข้อมูลนี้ดี มีประโยชน์ ก็ช่วยกด Like กด Share ข้อมูลให้ด้วยน่ะครับ ฝากถึงทุกท่านที่ต้องการติดตามข้อมูลวิธีรักษาสิวด้วยตัวเองแบบธรรมชาติ สามารถติดตามข้อมูลกับเราได้โดยกด Like ที่ Fanpage หรือ Follow เราทาง Twitter ได้น่ะครับ วันนี้ก็ขอลาเพียงเท่านี้คร๊าบGustdiihttp://www.blogger.com/profile/04580720651699750937noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-2329408645050001291.post-13277608514715297652013-06-01T16:01:00.000+07:002013-06-01T17:13:48.994+07:00แตงกวา สูตรรักษาสิวด้วยวิธีธรรมชาติสำหรับใครที่กำลังมองหา<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>วิธีรักษาสิว</b></a>ด้วยวิธีธรรมชาติน่ะครับ วันนี้ทางเรามี<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>สูตรรักษาสิว</b></a>ด้วยตัวเองโดยใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายๆ ในบ้านเราน่ะครับ นั่นก็คือสูตร<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2013/06/cucumber-face-mask-for-acne.html"><b>แตงกวารักษาสิว</b></a>นั่นเอง แตงกวารักษาสิวเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ต้องการ<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>รักษาสิวด้วยวิธีธรรมชาติ</b></a> ทำง่ายๆ ได้ด้วยตนเองและไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องเสียเงินซื้อยารักษาสิวแพงๆ มาใช้ นอกจากแตงกวารักษาสิวแล้ว ทางทีมงานได้เคยแนะนำการรักษาสิวด้วยวิธีธรรมชาติอื่นๆ มาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น<br />
<br />
<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2011/08/blog-post_07.html"><b>มะนาวรักษาสิว</b></a><br />
<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2013/01/blog-post.html"><b>มะเขือเทศรักษาสิว</b></a><br />
<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2011/08/blog-post_09.html"><b>น้ำผึ้งรักษาสิว</b></a><br />
<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2012/03/blog-post_20.html"><b>ว่านหางจระเข้รักษาสิว</b></a><br />
<br />
อย่างไรก็ตาม ลองเข้าไปศึกษากันดูน่ะครับ มาเข้าเรื่องกันต่อดีกว่าน่ะครับสำหรับแตงกวา<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>รักษาสิว</b></a> วัตถุดิบก็ไม่มีอะไรมา มีแค่แตงกวาอย่างเดียวนะครับ<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><img alt="แตงกวา สูตรรักษาสิวด้วยวิธีธรรมชาติ" border="0" height="282" src="http://4.bp.blogspot.com/-xcH-jNr2BcA/Uam1X0SNIZI/AAAAAAAABBA/Zl5-VhvO1vc/s400/%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B2.jpg" title="แตงกวา สูตรรักษาสิวด้วยวิธีธรรมชาติ" width="400" /></a></div>
<u><b>วิธีที่ 1</b></u> วิธีนี้ไม่ยุ่งยากอะไร ง่ายๆ เลยนำแตงกวามาล้างให้สะอาด แล้วหั่น slice ให้บางหน่อย จากนั้นก็นำแตงกวาที่หั่นแล้วมาทาให้ทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ซักพักแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เป็นการทำให้หน้าสะอาด ป้องกันสิวได้<br />
<br />
<u><b>วิธีที่ 2</b></u> น้ำแตงกวามาล้างให้สะอาด เอาเปลือกแตงกวาออก จากนั้นใช้มีดหั่นและสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ แต่ไม่ต้องให้เละจนละเอียดมาก ให้เละแบบหยาบๆ พอ จะปริมาณว่าสามารถนำมาพอกหน้าเราได้เพียงพอ เมื่อเราสับแตงกวาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราจะได้ในส่วนของเนื้อแตงกวาที่เละๆ และน้ำแตงกวาด้วย นำทั้งหมดที่ได้มานวดให้ทั่วบริเวณผิวหน้า จากนั้นพอกเอาไว้ที่ใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณซัก 5 นาทีแล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่น วิธีนี้จะช่วยให้หน้าใส ชุ่มชื้น และห่างไกลจากสิว<br />
<br />
<h3>
<u><b>สูตรหน้าใส กระชับรูขุมขนด้วยแตงกวา</b></u></h3>
หากใครที่ต้องการ<b><a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/">ลดสิว</a></b> ลดหน้ามัน กระชับรุขุมขนบนใบหน้า และทำให้หน้าใส ลองเอาวิธีนี้ไปลองดูน่ะครับ นำแตงกวามาล้างให้สะอาด เอาเปลือกออกจากนั้นสับให้เละ หรือจะใช้เครื่องบดช่วยก็ได้น่ะครับ จากนั้นนำแตงกวาที่สับเละแล้วไปกรองเอาแต่น้ำ แยกกากออก นำโยเกิร์ตสูตรธรรมชาติประมาณสามช้อนโต๊ะมาผสม ตอนผสมให้นำโยเกิร์ตใส่ลงไปในถ้วยก่อน จากนั้นก็ค่อยๆ เทน้ำแตงกวาลงไปทีละนิดๆ แล้วคนให้เข้ากัน อย่าใส่น้ำแตงกวาเยอะจนโยเกิร์ตกลายเป็นน้ำเพราะตอนนำไปมาร์คหน้าจะเลอะเทอะ เมื่อผสมโยเกิร์ตกับน้ำแตงกวาให้เข้ากันแล้ว ก็นำส่วนผสมที่ได้มาทาให้ทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณซัก 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น แนะนำให้ทำก่อนนอนทุกวัน หน้าคุณจะชุ่มชื่น ใส และกระชับรูขุมขนได้อย่างเห็นผล<br />
<br />
สำหรับวันนี้คงมีแค่นี้ ใครที่สนใจ<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>สูตรรักษาสิว</b></a> และวิธี<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2013/06/cucumber-face-mask-for-acne.html"><b>รักษาสิวด้วยวิธีธรรมชาติ</b></a> สามารถติดตามข่าวสารของ Blog เราได้ จะได้ไม่พลาดทุกๆ update วันนี้คงแค่นี้ก่อน ไว้เจอกันโพสหน้าครับ <br />
<br />
<br />Gustdiihttp://www.blogger.com/profile/04580720651699750937noreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-2329408645050001291.post-89977021924436983542013-05-14T16:47:00.001+07:002013-05-14T16:49:50.687+07:00วิธีลดรอยดำจากสิวด้วยมะเขือเทศสด<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>สิว</b></a>เป็นปัญหาที่สร้างความหนักอกหนักใจให้กับพวกเราๆ อยู่แล้ว แม้บางครั้งเราจะ<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>รักษาสิว</b></a>ให้หายไปได้แล้ว ก็ยังไม่หมดเรื่องซะทีเดียว เพราะว่าสิวเจ้ากรรมทั้งหลายเหล่านี้ได้ทิ้งรอยดำๆ เอาไว้ให้เราได้ดูต่างหน้า สร้างความหนักใจให้กับพวกเราหนักกว่าเดิมอีก<br />
<br />
ในวันนี้ทางเราจึงมาแนะนำวิธีรักษาสิวแบบธรรมชาติที่สามารถ<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2013/05/how-to-get-rid-of-dark-spots-from-acne.html"><b>ลดรอยดำจากสิว</b></a>ให้จางลงได้ อย่างที่รู้กันน่ะครับว่าเราจะเน้นวิธีที่เป็นธรรมชาติ เน้นวัตถุดิบที่หาได้จากธรรมชาติ ดังนั้น ผลของการรักษาอาจจะไม่ได้เห็นผลรวดเร็วทันใจอย่างที่หลายๆ คนคิดน่ะครับ และอีกอย่าง วิธีการลดรอยดำจากสิวนั้น สามารถทำได้หลายวิธี ไม่จำเป็นจะต้องมีวิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้น ดังนั้นเราควรทดลองหลายๆ วิธี แล้วดูผลว่าตัวเราตอบสนองต่อวิธีไหนดีที่สุด วิธีไหนทำแล้วเห็นผลมากที่สุด เพราะผิวของคนเรานั้นย่อมแตกต่างกันอยู่แล้ว ดังนั้น ผลการตอบสนองต่อวิธีการลดรอยดำจากสิวของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไป<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2013/05/how-to-get-rid-of-dark-spots-from-acne.html"><img alt="ลดรอยดำจากสิว" border="0" height="300" src="http://4.bp.blogspot.com/-XgY8SNBOO9k/UZIH-qJQm7I/AAAAAAAAA_I/8Q7JRrMI0po/s400/%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%B3%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A7.JPG" title="ลดรอยดำจากสิว" width="400" /></a></div>
<br />
หากไม่มั่นใจว่าจะเกิดอาการแพ้หรือไม่ เราควรทดลองกับผิวหนังสุดอื่นๆ ก่อน ในปริมาณน้อยๆ เพื่อดูว่ามีอาการแพ้ หรือคันเกิดขึ้นหรือไม่ เพื่อป้องกันไว้ก่อนน่ะครับ<br />
<br />
สำหรับ<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2013/05/how-to-get-rid-of-dark-spots-from-acne.html"><b>วิธีลดรอยดำจากสิว</b></a>ที่จะแนะนำในวันนี้ ก็ง่ายๆ เลยครับ ใช้เพียงแค่มะเขือเทศสดอย่างเดียวเท่านั้น วิธีการทำก็ง่ายๆ ครับ นำมะเขือเทศสดมาหั่นเป็นชิ้นๆ จากนั้นนำไปถูเบาๆ บริเวณที่เป็นสิวและรอยดำให้ทั่ว เมื่อทาให้ทั่วแล้วทิ้งไวซัก 5 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น วิธีนี้จะช่วยลดรอยดำจากสิวให้จางลงได้เนื่องจากมะเขือเทศมีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆ จะช่วยกัดเซลล์ผิวที่ตายให้หลุดลอกออกได้ นอกจากนี้ สูตรมะเขือเทศลดรอยดำจากสิวนี้ยังช่วยให้ใบหน้ากระจ่างใสขึ้นอีกด้วย<br />
<br />
สูตรนี้ควรทำทุกวัน อาจจะเป็นช่วงก่อนนอนก็ได้ ใครนำไปใช้แล้วเห็นผล หรือมีข้อแนะนำอะไร ก็อย่างลืมนำมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันด้วยน่ะครับ หากชอบข้อมูล<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>วิธีรักษาสิว</b></a>แบบธรรมชาติของเรา และต้องการรับข้อมูล ข่าวสารจากทางทีมงาน สามารถกด like ที่ fanpage ด้านข้างได้เลยน่ะครับ ท่านจะได้รับข้อมูลที่อัพเดตจากเราอย่างต่อเนื่องGustdiihttp://www.blogger.com/profile/04580720651699750937noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-2329408645050001291.post-65178418843992864162013-01-21T15:54:00.000+07:002013-01-21T16:03:43.774+07:00มะเขือเทศรักษาสิว เคยลองกันรึยัง???<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>วิธีรักษาสิว</b></a>ด้วยวิธีธรรมชาติที่จะมาแนะนำในวันนี้คือการใช้<b><a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2013/01/blog-post.html">มะเขือเทศรักษาสิว</a> </b>ซึ่งมะเขือเทศเป็นสิ่งที่สามารถหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป <a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>การรักษาสิว</b></a>ด้วยมะเขือเทศสามารถทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน ไม่เป็นอันตรายเนื่องจากใช้วัตถุดิบที่ได้จากธรรมชาติล้วนๆ เหตุผลที่คิดว่ามะเขือเทศสามารถช่วยรักษาสิวได้ก็คือ ในมะเขือเทศนั้นจะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่ นอกจากนั้นมะเขือเทศยังอุดมไปด้วยวิตามิน ซี และวิตามัน เอ รวมไปถึงมะเขือเทศจะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ทำให้สามารถช่วย<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>รักษาสิว</b></a>ได้<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2013/01/blog-post.html"><img alt="มะเขือเทศรักษาสิว" border="0" height="266" src="http://2.bp.blogspot.com/-ZU3IWdJaMbs/UP0B4jEa2XI/AAAAAAAAA68/UOEVvbqEL7k/s400/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A7.jpg" style="margin-left: auto; margin-right: auto;" title="มะเขือเทศรักษาสิว" width="400" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2013/01/blog-post.html"><b>มะเขือเทศรักษาสิว</b></a></td></tr>
</tbody></table>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
สำหรับสูตร<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2013/01/blog-post.html"><b>มะเขือเทศรักษาสิว</b></a>ที่นำมาแนะนำในวันนี้สามารถทำได้หลายรูปแบบ ดังนี้<br />
<br />
1. บดมะเขือเทศ 1 ลูกให้ละเอียด จากนั้นนำมะเขือเทศที่ได้มาพอกหน้า ทั้งบริเวณที่มี<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>สิว</b></a>และไม่มีสิว จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น จากนั้นเช็ดหน้าให้แห้ง ทำต่อเนื่องกันประมาณ 1 สัปดาห์ จะช่วย<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>แก้สิว</b></a>ได้<br />
<br />
2. สูตรมะเขือเทศกระชับรูขุมขน สามารถทำได้ง่ายๆ คือ นำน้ำมะเขือเทศประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำมะนาวประมาณ 2-4 หยด จากนั้นใช้ สำลีก้อนชุบส่วนผสมดังกล่าวแล้วทาและขัดให้ทั่วหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำอุ่น<br />
<br />
3. สูตรมาร์คหน้าด้วยมะเขือเทศและอาโวกาโด้ ทำความสะอาดผิวหน้าง่ายๆ ด้วยการบดมะเขือเทศกับอาโวกาโด้ให้เข้ากัน จากนั้นนำไปทาให้ทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น หรือ น้ำเย็นก็ได้ เช็ดหน้าให้แห้ง เป็นอันเสร็จเรียบร้อย<br />
<br />
4. ลดความมันของใบหน้าโดยการผ่ามะเขือเทศครึ่งลูก จากนั้นนำมะเขือเทศสดๆ ทาให้ทั่วหน้า โดยเฉพาะบริเวณที่เกิดสิว หรือบริเวณที่หน้ามันๆ จากนั้นล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น และเช็ดหน้าให้แห้ง<br />
<br />
5. สูตรรักษาสิวด้วยมะเขือเทศและแตงกวา นำแตงกวามา 1 ลูก จากนั้น นำไปหั่นบางๆ และสับให้ละเอียด คั้นเอาแต่น้ำแตงกวาแล้วกรองแยกใส่ชามเอาไว้ จากนั้นนำมะเขือเทศมา 1 ลูกหั่นให้ละเอียด แล้วคั้นเอาแต่น้ำเช่นกัน นำน้ำแตงกวาและน้ำมะเขือเทศมาผสมให้เข้ากัน จากนั้นใช้สำลีก้อนชุบทาและขัดให้ทั่วบริเวณผิวหน้า แล้วล้างออก เช็ดหน้าให้แห้ง<br />
<br />
6. สูตรมาร์คหน้าด้วยมะเขือเทศและโยเกิร์ต หั่นมะเขือเทศมาครึ่งลูก จากนั้นสับให้ละเอียด แล้วนำไปผสมกับโยเกิร์ตประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ทาให้ทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น<br />
<br />
สูตร<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2013/01/blog-post.html"><b>มะเขือเทศรักษาสิว</b></a>ตามรายละเอียดด้านบน ถ้าใครสนใจก็ลองนำไปทำดู ถ้าได้ผลหรือไม่ได้ผลยังไง ช่วยกลับมาแนะนำหรือแลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆ ด้วยน่ะ หากชอบ Blog นี้ จะขอให้ช่วยกด like กด share ให้ด้วยน่ะ ทีมงานจะได้มีน้ำใจหาข้อมูลดีๆ มาฝาก<br />
<br />
ส่วนการ<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>รักษาสิวธรรมชาติ</b></a> นอกจากมะเขือเทศที่สามารถช่วยรักษาสิวได้แล้ว ยังมีพืชสมุนไพรตัวอื่นๆ ที่สามารถนำมาแก้สิว ลดสิวได้ เช่น <a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2013/01/how-to-use-fresh-garlic-to-cure-acne.html"><b>กระเทียมรักษาสิว</b></a> ที่เราพูดถึงเมื่อโพสที่แล้ว <b>หอมแดงรักษาสิว</b>ก็เป็นอีกทางเลือกนึง <b>ขมิ้นรักษาสิว</b> และ<b>แตงกวารักษาสิว</b> เป็นต้น<br />
<br />Gustdiihttp://www.blogger.com/profile/04580720651699750937noreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-2329408645050001291.post-2627952966456582562013-01-17T22:59:00.001+07:002013-01-17T23:06:17.870+07:00มาดู! สูตรกระเทียมรักษาสิว ไม่ลอง ไม่รู้ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยใดระบุได้ว่า<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2013/01/how-to-use-fresh-garlic-to-cure-acne.html"><b>กระเทียมรักษาสิว</b></a>ได้อย่างเห็นผลชัดเจน แต่ว่าจากการบอกต่อๆ กันมาของคนที่ทดลองนำกระเทียมมารักษาสิวแล้วพบว่ามันได้ผลจริงๆ ทำให้การนำสูตรกระเทียมรักษาสิวนิยมกันอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ส่วนใหญ่เชื่อว่ากระเทียมมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราหรือไวรัส และในกระเทียมยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เป็นผลให้กระเทียมสามารถที่จะ<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>แก้สิว</b></a>ได้ วิธีที่จะทำให้เราทราบว่ากระเทียมรักษาสิวได้จริงหรือไม่ก็คือ เราต้องทดลองทำเอง วันนี้เรามีสูตรการใช้กระเทียมสดรักษาสิวมาแนะนำเพื่อนๆ ลองนำไปทดลองใช้ดูกันได้ ถ้าได้ผลอย่างไรก็นำมาแชร์ให้เพื่อนได้รู้ด้วยก็จะดีมากเลย<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><img alt="กระเทียมรักษาสิว" border="0" height="293" src="http://2.bp.blogspot.com/-wL5vXQDfnOs/UPgggIvsgxI/AAAAAAAAA6s/OwBS1ooJuv8/s400/%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A7.jpg" title="สูตรกระเทียมรักษาสิว" width="400" /></a></div>
<br />
<h2>
<b>สูตรน้ำกระเทียมรักษาสิว</b></h2>
<b>ขั้นตอนที่ 1: </b>นำกระเทียมมาประมาณ 2-3 กลีบ<br />
<b>ขั้นตอนที่ 2: </b>บดหรือทุบกระเทียมให้ละเอียดจากนั้นนำมาคั้นให้ได้น้ำกระเทียม กรองเอากากออก<br />
<b>ขั้นตอนที่ 3: </b>นำน้ำกระเทียมที่ได้มาทาบริเวณที่เป็นสิว และบริเวณรอบๆ ที่เป็นสิวด้วย โดยกระเทียมจะสามารถป้องกันไม่ให้สิวเกิดเพิ่มขึ้นอีกได้<br />
<b>ขั้นตอนที่ 4: </b>เมื่อทาน้ำกระเทียมทั่วบริเวณที่ต้องการแล้ว ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นล้างออก อย่าทิ้งไว้นานหรือทิ้งไว้ค้างคืน เนื่องจากในกระเทียมจะมีสารบางอย่างที่มีฤทธิ์ทำให้ผิวหนังไหม้ได้<br />
<b>ขั้นตอนที่ 5: </b>ทาน้ำกระเทียมทุกวันจนกว่าสิวจะหาย เมื่อหายแล้วสามารถทำต่อเนื่องได้ทุกวัน เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดสิวอีกครั้ง น้ำกระเทียมที่เหลือจากการใช้งานสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้<br />
<h2>
<b>สูตรกระเทียมกับน้ำส้มสายชู(White Vinegar) รักษาสิว</b></h2>
<b>ขั้นตอนที่ 1: </b>นำกระเทียมมาประมาณ 2-3 กลีบ บดหรือทุบกระเทียมให้ละเอียดจากนั้นนำมาคั้นให้ได้น้ำกระเทียม กรองเอากากออก<br />
<b>ขั้นตอนที่ 2: </b>ผสมน้ำส้มสายชู(White Vinegar) ในปริมาณที่เท่าๆ กับน้ำกระเทียมที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 1จากนั้นผสมให้เข้ากัน<br />
<b>ขั้นตอนที่ 3:</b>นำสำลีก้อนมาชุบส่วนผสมที่ได้จากขั้นตอนที่ 2 แล้วนำมาขัดบริเวณที่เป็นสิว น้ำส้มสายชูจะช่วยปรับสภาผิวให้ดีขึ้น ส่วนสารต่อต้านอนุมูลอิสระในกระเทียมจะช่วยลดการติดเชื้อบริเวณที่เป็นสิวและรักษาผิวหน้าให้หายจากสิว<br />
<br />
ทดลองนำไปใช้แก้สิวดูว่าจะได้ผลหรือไม่ ใครลองทำดูแล้วก็มาบอกต่อกันบ้างน่ะ ไม่แน่<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>วิธีรักษาสิว</b></a>ด้วยกระเทียมอาจจะได้ผลกับคุณก็ได้ ไม่ต้องไปเสียเงินเสียทองเยอะแยะเข้าร้านรักษาสิวแพงๆ ต่างๆ <br />
<b><br /></b>Gustdiihttp://www.blogger.com/profile/04580720651699750937noreply@blogger.com7tag:blogger.com,1999:blog-2329408645050001291.post-71404702897729872402012-09-02T17:02:00.000+07:002012-09-02T17:02:38.975+07:00สูตรมาร์คหน้ารักษาสิวด้วยโอ๊ทมีลล์ (ข้าวโอ๊ต)สูตรมาร์คหน้า<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>รักษาสิว</b></a>ด้วยโอ๊ทมีลล์ หรือที่บ้านเราเค้าเรียกว่า "ข้าวโอ๊ต" เป็นสูตรรักษา<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>สิว</b></a>ด้วยวิธีธรรมชาติที่เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว <a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>วิธีรักษาสิว</b></a>วิธีนี้สามารถทำได้ง่ายๆ โดยสามารถทำเองได้ที่บ้าน <a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>การรักษาสิว</b></a>ด้วยโอ๊ทมีลล์วิธีนี้นอกจากจะเป็น<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>วิธีลดสิว</b></a>ให้น้อยลงแล้ว หากเราทำเป็นประจำจะช่วยให้ใบหน้ากระจ่างใส ดูอ่อนเยาว์เหมือนผิวเด็กอีกด้วย กรรมวิธีในการเตรียมไม่ยุ่งยากอะไรมากนัก เรามาดูกันเลยครับ<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><img alt="สูตรมาร์คหน้ารักษาสิวด้วยโอ๊ทมีลล์ (ข้าวโอ๊ต)" border="0" height="228" src="http://2.bp.blogspot.com/-qljysy8NuDQ/UEMtFt7CR4I/AAAAAAAAAyI/cAU6RG6QbBY/s320/%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B9%8A%E0%B8%97%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B9%8C.jpg" title="สูตรมาร์คหน้ารักษาสิวด้วยโอ๊ทมีลล์ (ข้าวโอ๊ต)" width="320" /></a></div>
<br />
<br />
ก่อนที่จะไปดูสูตรมาร์คหน้าด้วยข้าวโอ๊ต สำหรับเพื่อนที่ยังไม่ได้กด like ก็ขอรบกวนเวลาซักนิดน่ะครับ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทีมงาน หาข้อมูลดีๆ มาฝากเรื่อยๆ นอกจากนี้ท่านที่กด like จะได้รับข้อมูลข่าวสารจาก blog ของเราอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พลาดสูตรเด็ดๆ ในการรักษาสิว และผิวพรรณ กด like ตาม link ด้านล่างได้เลยครับ<br />
<br />
<iframe allowtransparency="true" src="//www.facebook.com/plugins/likebox.php?href=http%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fthaiacnecare&width=292&height=62&colorscheme=light&show_faces=false&border_color&stream=false&header=false&appId=368958679811052" frameborder="0" scrolling="no" style="border: none; height: 62px; overflow: hidden; width: 292px;"></iframe>
<br />
<h3>
<b>ส่วนผสมสูตรมาร์คหน้ารักษาสิวด้วยโอ๊ทมีลล์ มีดังนี้ครับ</b></h3>
<br />
โอ๊ทมีลล์บดให้ละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ<br />
โยเกิร์ตสด 1 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำผึ้ง 2-3 หยด<br />
<br />
<h3>
<b></b></h3>
<h3>
<b>วิธีการทำ</b></h3>
<ul>
<li>ผสมโยเกิร์ตและโอ๊ทมีลล์ลงในถ้วยจากนั้นคนให้เข้ากัน</li>
</ul>
<ul>
<li>อุ่นน้ำผึ้งให้ร้อนเล็กน้อย วิธีการคือ นำช้อนไปต้มในน้ำร้อนซักประมาณ 1-2 นาที จากนั้นนำช้อนขึ้นมาและหยดน้ำผึ้งลงบนช้อนประมาณ 2-3 หยด</li>
</ul>
<ul>
<li>นำน้ำผึ้งที่ได้ลงไปคนผสมให้เข้ากันกับโยเกิร์ตและโอ๊ทมีลล์ที่เราเตรียมเอาไว้ เมื่อเข้ากันดีแล้วก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย</li>
</ul>
<br />
<h3>
<b>วิธีการใช้</b></h3>
นำส่วนผสมที่เราเตรียมไว้มาทาให้ทั่วบริเวณใบหน้า จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นให้สะอาด ใช้ผ้าอุ่นๆ ซับหน้าให้แห้ง หลังจากนั้นก็ทาด้วย moisturizer เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ควรทำติดต่อกันเป็นประจำจะช่วย<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>รักษาสิว</b></a>บนใบหน้าให้ลดน้อยลง และทำให้ใบหน้านุ่มนวลเหมือนผิวเด็ก<br />
<br />
หากใครนำไปทดลองใช้แล้วได้ผลดี ไม่ดีอย่างไร อย่าลืมนำมาบอกเล่าให้เพื่อนๆ ฟังด้วยน่ะครับ สำหรับวันนี้คงมีเพียงเท่านี้ แล้วเจอกันใหม่ครับ Gustdiihttp://www.blogger.com/profile/04580720651699750937noreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-2329408645050001291.post-8529170581720473002012-05-31T10:28:00.000+07:002012-06-01T10:31:10.613+07:00รักษาสิวที่หลังด้วยเกลือทะเล(Sea salt)พอดีมีเพื่อนคนนึงเค้าแนะนำมาน่ะครับว่าเค้าเป็น<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>สิวที่หลัง</b></a>เยอะมาก ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสาเหตุมันเกิดมาจากอะไร แต่เพื่อนเค้าสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นเพราะเค้าไว้ผมยาว และผมก็มัน อาจจะเป็น<b><a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/">สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวที่หลัง</a></b> นี่เป็นข้อสงสัยเฉยๆ น่ะครับ ไม่รู้ว่าถูกต้องรึป่าว จากที่เค้ามีปัญหาเรื่องสิวที่หลัง เพื่อนผมลองหาวิธีรักษาดู ก็ไปพบกับ<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>สูตรรัักษาสิวที่หลัง</b></a>สูตรนึงครับ คือการรักษาสิวที่หลังด้วยเกลือทะเล อย่างเพิ่งดูถูกไปน่ะครับ สรรพคุณของเกลือนี่ไม่น้อยเลยน่ะครับ เกลือทะเลท่านหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไปน่ะครับ<br />
<br />
วิธีการที่เพื่อนผมเค้าทำคือ นำเกลือทะเลที่เราซื้อมาเนี่ยมาละลายกับน้ำอุ่นครับ จากนั้นนำไปใส่ขวดสเปรย์ฉีดให้ทั่วบริเวณแผ่นหลัง ปล่อยไว้ให้แห้งแล้วล้างออก ทำทุกวันหลังจากอาบน้ำเสร็จ ช่วงนี้อย่างเพิ่งใช้พวก moisturizer หรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีใดๆ น่ะครับ หลังจากทำอย่างนี้ทุกวัน ท่านจะเห็นความแตกต่าง ว่าสิวที่หลังเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจนเพียงไม่กี่วัน<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img alt="รักษาสิวที่หลังด้วย sea salt" border="0" height="259" src="http://2.bp.blogspot.com/-tdccMeV5a4o/T8g1pAb_PQI/AAAAAAAAAkU/T946j2Inhco/s320/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2+sea+salt.jpg" title="รักษาสิวที่หลังด้วย sea salt" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b>รักษาสิวที่หลังด้วย sea salt</b></td></tr>
</tbody></table>
<br />
ข้อแนะนำน่ะครับ สำหรับใครที่มีผมยาวๆ ก็ควรที่จะตัดให้สั้นลงบ้าง หมั่นดูแลเส้นผมให้สะอาด โดยเลือกใช้พวกแชมพูที่มีคุณสมบัติเป็นยา พวกนี้หาได้ทั่วไปตามท้องตลาดครับ<br />
<br />
สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องสิวที่หลังอยู่ กำลังหา<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>วิธีรักษาสิวที่หลัง</b></a> ก็ลองนำวิธีนี้ไปใช้ดูบ้างน่ะครับ ได้ผล ไม่ได้ผลยังงัยก็มาบอกกันบ้างน่ะครับ ถ้าหากคิดว่าเทคนิคนี้เป็นประโยชน์ก็รบกวน กด Like กด Share ให้ด้วยน่ะครับ ไม่ขอไรมาก ขอบคุณครับ Gustdiihttp://www.blogger.com/profile/04580720651699750937noreply@blogger.com3tag:blogger.com,1999:blog-2329408645050001291.post-66024374335342866672012-04-25T14:15:00.003+07:002012-04-25T14:30:46.521+07:00สูตรมาร์คหน้าด้วยไข่ขาว รักษาสิวหัวดำวันนี้ทางทีมงานขอแนะนำสูตรมาร์คหน้าด้วยไข่ขาวสำหรับ<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>รักษาสิวหัวดำ</b></a> โดยไข่ขาวจะช่วยกำจัด<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/p/comedone.html"><b>สิวหัวดำ</b></a> ความมันและสิ่งสกปรกที่อยู่บริเวณผิดหน้าออกไป หลายท่านนำไปทดลองใช้มาแล้วปรากฏว่าได้ผลดีมากน่ะครับ วิธีมาร์คหน้าด้วยไข่ขาวนี้เป็น<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>วิธีรักษาสิวหัวดำด้วยวิธีธรรมชาติ</b></a>ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยครับ ดังนั้นหายห่วงเรื่องอาการแพ้ต่างๆได้เลย สามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน ว่ากันแล้วก็มาดูกันเลยครับว่ามีวิธีการทำอย่างไรกันบ้าง<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><img alt="สูตรมาร์คหน้าด้วยไข่ขาว รักษาสิวหัวดำ" border="0" src="http://3.bp.blogspot.com/-aejSu9LmGLQ/T5emMxpwcEI/AAAAAAAAAQo/nJ086hPMMaY/s1600/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%B3.jpg" style="margin-left: auto; margin-right: auto;" title="สูตรมาร์คหน้าด้วยไข่ขาว รักษาสิวหัวดำ" /></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b>สูตรมาร์คหน้าด้วยไข่ขาวรักษาสิวหัวดำ</b></td></tr>
</tbody></table>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
ก่อนอื่นก็ไปเลือกไข่ลูกโตๆ ขาวๆ อวบๆ อ้วนๆ (เกี่ยวไรหว่า) มาก่อนเลยเลยครับ ตอกไข่ลงชามแล้วแยกเอาเฉพาะไข่ขาว ส่วนไข่แดงก็สุดแล้วแต่ท่านละครับ จะทิ้งหรือจะเก็บไว้เจียวหรือเก็บไว้ทำอย่างอื่นก็สุดแล้วแต่ท่าน จากนั้นนำไข่ขาวที่เราแยกไว้มาตีเบาๆ ให้เข้ากันโดยใช้ส้อม เสร็จแล้วนำไข่ขาวมาทาบริเวณใบหน้าของเรา ขั้นตอนนี้มันจะรู้สึกเหนียวๆ ลื่นๆ บนใบหน้าน่ะครับ ทนๆ หน่อย เพื่อความสวย ความหล่อ<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><img alt="ไข่ขาวรักษาสิวหัวดำ" border="0" height="320" src="http://1.bp.blogspot.com/-4zhCGsoTC4k/T5emNvNM29I/AAAAAAAAAQw/C_o7NQhsFHw/s320/%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%2582%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2582%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A9%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B3.jpg" style="margin-left: auto; margin-right: auto;" title="ไข่ขาวรักษาสิวหัวดำ" width="224" /></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b>ไข่ขาวรักษาสิวหัวดำ</b></td></tr>
</tbody></table>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
ตอนที่ทาไข่ขาวที่หน้าให้ระวังด้วยน่ะครับ อย่าทาบริเวณรอบดวงตา จริงๆ แล้วบริเวณรอบดวงตาไม่มีสิวหัวดำอยู่แล้วล่ะ ไม่จำเป็นต้องทาบริเวณนั้นหรอก พอทาไข่ขาวทั่วบริเวณใบหน้าเสร็จแล้ว ให้อยู่นิ่งๆ อย่างนั้นแหละ อย่าขยับหน้าไปมา จากนั้นรอให้ไข่ขาวแห้ง เมื่อไข่่ขาวแห้งจะรู้สึกได้ว่าหน้าจะตึงๆ เมื่อคิดว่าไข่ขาวแห้งสนิทแล้ว ก็ค่อยๆ ดึงมาร์คไข่ขาวออกทีละน้อย จะรู้สึกได้เลยว่าจะมีพวกเศษผิวหนังที่ตายแล้วและก็พวกสิ่งอุดตันรูขุมขน ตลอดจนพวก<b>สิวหัวดำ</b> <a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/p/trichostasis-spinulosa.html"><b>สิวเสี้ยน</b></a>ต่างๆ ติดออกมาด้วย<br />
<br />
หลังจากที่ลอกมาร์คไข่ขาวออกหมดแล้ว ก็ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เช็ดหน้าให้แห้ง เป็นอันเสร็จครับ เป็นงัยครับ สูตรมาร์คหน้าด้วยไข่ขาว ง่ายมั้ยละครับ ลองเอาไปทำดูน่ะครับ สำหรับใครที่มองหา<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/2012/04/using-egg-white-blackhead-mask.html"><b>วิธีรักษาสิวหัวดำแบบธรรมชาติ</b></a>อยู่ ได้ผล ไม่ได้ผลยังงัยมาบอกกันด้วยน่ะครับGustdiihttp://www.blogger.com/profile/04580720651699750937noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-2329408645050001291.post-44860720731362857132012-04-11T23:27:00.000+07:002012-04-11T23:27:04.811+07:00สิว บอกอารมณ์และโรคร้ายได้น่ะเออ<strong>ตำแหน่ง<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/">สิว</a> บนผิวหน้า บ่งบอกอารมณ์และโรคร้ายได้อย่างคาดไม่ถึง <br />
<br />
</strong>สีหน้าและแววตา ใช้สื่อถึงความรู้สึกและอารมณ์ต่างๆ ได้ แต่ผิวหน้าของคนเราก็สามารถสื่อถึงสุขภาพภายในร่างกายได้เหมือนกัน <br />
<div align="left"><strong><span style="color: blue;"><br />
</span></strong></div><div align="left"><strong><span style="color: blue;"> วิธีการสังเกตถึงสุขภาพภายในร่างกายของเราหรือของคนใกล้ตัวเรานั้น ด้วยศาสตร์ใหม่จากการวิเคราะห์สภาพผิว Face Mapping กระบวนการพิสูจน์และวิเคราะห์สภาพผิวด้วยศาสตร์ตะวันออก</span></strong> ซึ่งเป็นหนึ่งในปรัชญาความคิดเบื้องต้นที่ว่า <strong><span style="color: blue;">"ผิวหน้าสามารถบ่งบอกได้ถึงสุขภาพภายในร่างกายที่มีผลกระทบต่อผิวพรรณ"</span></strong> ทำให้เข้าใจได้ถึงสาเหตุการเกิดปัญหาสุขภาพผิว</div><div align="left"><br />
</div><div align="left"> ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพผิว จากศูนย์สุขภาพผิวเลียวนาร์ด เดรก ได้นำเสนอแนวทางการป้องกันโดยมีหลักในการวิเคราะห์สภาพผิวแบบ Face Mapping นั้นจะเป็นการวิเคราะห์สภาพผิวที่ละเอียดกว่าการวิเคราะห์ผิวโดยทั่วไป โดยแบ่งส่วนใบหน้า ลำคอ และแผ่นอกออกเป็น 4 โซน</div><div align="left"><br />
</div><table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><img border="0" height="320" src="http://4.bp.blogspot.com/-TDY4LEji260/T4WwPEqwZDI/AAAAAAAAAM8/ZobbQylGVy8/s320/face_mapping.jpg" style="margin-left: auto; margin-right: auto;" width="263" /></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b>สิวบอกโรค</b></td></tr>
</tbody></table><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"></div><div align="left"><br />
</div><div align="left"><strong><span style="color: #ac002b;"></span></strong><strong><span style="color: #ac002b;">สิวบอกโรค : </span></strong><strong><span style="color: #ac002b;">โซนที่ 1 และโซนที่ 3</span></strong> ถ้ามีปัญหาสิวบริเวณนี้ คุณอาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ดังนั้นอาจต้องดื่มน้ำมากขึ้นหรือทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ </div><div align="left"><br />
<strong><span style="color: #ac002b;">สิวบอกโรค : </span></strong><strong><span style="color: #ac002b;">โซนที่ 2 </span> </strong>สิวบริเวณหว่างคิ้ว เกี่ยวกับตับ อาจมีปัญหาในการย่อยแลคโทส (ดื่มนมไม่ได้) การทานอาหารรสจัดหรือทานอาหารดึกเกินไป<strong> </strong></div><div align="left"><strong><br />
</strong><strong><span style="color: #ac002b;">สิวบอกโรค : </span></strong><strong><span style="color: #ac002b;">โซนที่ 4 และโซนที่ 10</span></strong> ผิวบริเวณหูนี้เป็นผลพวงของไต หากรู้สึกร้อนที่หู คุณอาจต้องลดการรับประทานเนื้อสัตว์ลง</div><div align="left"><br />
<strong><span style="color: #ac002b;">สิวบอกโรค : </span></strong><strong><span style="color: #ac002b;">โซนที่ 5 และโซนที่ 9</span></strong> บริเวณแก้มทั้งสองด้าน โดยแก้มส่วนบนจะเกี่ยวข้องกับไซนัสและปอด ส่วนแก้มส่วนล่าง เหงือกและฟัน สาเหตุอาจเป็นเพราะสูบบุหรี่จัด หรือแพ้ควันบุหรี่ ภูมิแพ้ เป็นหวัดเรื้อรัง หรืออาจใช้บลัชออนและรองพื้นไม่เหมาะสม ถ้าเป็นริ้วรอยลึกบริเวณโหนกแก้มอาจบ่งบอกถึงปัญหาเรื่องปอดหรือการหายใจ ถ้ามีสิวแบบเป็นๆ หายๆ ที่แก้มด้านล่างอาจมีปัญหาเรื่องเหงือกและฟัน หรือโทรศัพท์มือถือไม่สะอาด</div><div align="left"><br />
<strong><span style="color: #ac002b;">สิวบอกโรค : </span></strong><strong><span style="color: #ac002b;">โซนที่ 6 และโซนที่ 8</span></strong> ตำแหน่งรอบดวงตาทั้ง 2 ข้าง เกี่ยวข้องกับไต และปัญหาภูมิแพ้ สาเหตุมาจากเครื่องสำอางที่ใช้อยู่ อาจไม่เหมาะสม หรือใส่แว่นตาที่เสียดสีมาก รอยคล้ำอาจเกิดจากการมีสารพิษตกค้างในร่างกายมาก หรือพักผ่อนน้อย เปลือกตาหากมีความระคายเคือง อาจมาจากการเป็นภูมิแพ้ หรือขาดสารอาหาร</div><div align="left"><br />
<span style="color: #ac002b;"> </span><strong><span style="color: #ac002b;">สิวบอกโรค : </span></strong><span style="color: #ac002b;"><strong>โซนที่ 7</strong></span> ผิวบริเวณจมูกและริมฝีปาก แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หากมีสิวบริเวณนี้อาจหมายถึงผลกระทบของการตั้งครรภ์ การมีประจำเดือน การรับประทานยาคุมกำเนิด</div><div align="left"><br />
<strong><span style="color: #ac002b;">สิวบอกโรค : </span></strong><strong><span style="color: #ac002b;">โซนที่ 11 และโซนที่ 13</span></strong> หากผิวบริเวณนี้แตกระแหง สามารถบอกได้ว่าคุณกำลังมีปัญหาของฟันกราม หรือปัญหาเกี่ยวกับฟัน</div><div align="left"><br />
<strong><span style="color: #ac002b;">สิวบอกโรค :</span></strong> <strong><span style="color: #ac002b;">โซนที่ 12</span> </strong>สิวเรื่อๆ บริเวณคางนี้ สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณกำลังมีปัญหาเรื่องลำไส้เล็ก ที่มีผลจากการรับประทานของเผ็ด</div><div align="left"><br />
<strong><span style="color: #ac002b;">สิวบอกโรค : </span></strong><span style="color: #ac002b;"><strong>โซนที่ 14</strong></span> หากคุณมีสิวบริเวณนี้แล้วล่ะก็ แสดงว่าคุณกำลังเครียดสูง</div><div align="left"><span style="color: #ac00ac;"><br />
</span></div><div align="left"><span style="color: #ac00ac;"> นี่เป็นเพียงแค่รายละเอียดเพียงเล็กน้อยของการวิเคราะห์สภาพผิวหน้าที่ทำให้ รู้ได้ถึงสุขภาพภายในร่างกาย ซึ่งจะทำให้เราทราบได้ว่าจะต้องดูแลบำรุงทั้งสุขภาพภายในและภายนอกอย่างไร</span> เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพียงแค่นี้คุณก็จะมีทั้งสีหน้า แววตาและผิวพรรณที่เป็นสุขได้แล้ว</div><div align="left"><br />
</div><div align="left"><span style="font-size: x-small;"><b>ที่มา: </b>http://thaipost.net </span></div>Gustdiihttp://www.blogger.com/profile/04580720651699750937noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-2329408645050001291.post-16325443772541342842012-03-30T14:18:00.001+07:002012-03-30T14:19:01.334+07:00ผลไม้ช่วยรักษาสิว<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: right; margin-left: 1em; text-align: right;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><img border="0" src="http://3.bp.blogspot.com/-Eg4zOEP3B9M/T3Va-PJj6xI/AAAAAAAAAMc/nXtpIRouwFc/s1600/avocado.jpg" style="margin-left: auto; margin-right: auto;" /></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b>อาโวกาโด้</b></td></tr>
</tbody></table><br />
<div class="separator" style="clear: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em; text-align: center;"></div><br />
<h2><b><a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/">สิว</a>กับผลไม้</b></h2>ผลไม้สำหรับช่วย<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>รักษาสิว</b></a>: บทความนี้แปลมาจากบทความที่ฝรั่งเค้าเขียนเอาไว้น่ะครับ เกี่ยวกับวิธีรักษา<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/p/acne.html"><b>สิว</b></a>ด้วยการรับประทานผลไม้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง ย่อมมีประโยชน์หากเราได้รับแต่พอดี หากได้รับเยอะเกินไปก็อาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ วันนี้จึงอยากจะนำเรื่อง ผลไม้ที่ช่วยรักษาสิว มาเล่าสู่กันฟังครับ<br />
<br />
<div style="color: blue;">ในช่วงที่ผมกำลังหาวิธีรักษา<b>สิว</b>ของตัวเองอยู่นั้น มีหมอจีนคนนึงแนะนำว่า <b>"ถ้าอยากหายจากการเป็นสิว คุณควรจะรับประทานส้มทุกวันตอนเช้า แล้วคุณจะไม่พบกับปัญหาเรื่องสิวอีกเลย"</b> เชื่อมั้ยว่า หลังจากที่ผมลองทำตามที่หมอจีนคนนั้นแนะนำ มันทำให้ผู้รู้สึกว่าระบบขับถ่ายของผมดีขึ้น และเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าหากร่างกายเรามีระบบขับถ่ายที่ดี และร่างกายทำงานเป็นปกติ ก็จะทำให้ไม่เป็นสิว ดังนั้น ทำให้ผมมานั่งนึกๆ ดูว่ามันมีผลไม้อะไรบ้างมั้ยที่รับประทานเข้าไปแล้ว สามารถช่วยรักษาหรือช่วยลดสิวลงไปได้บ้าง และผมยังนึกต่อไปว่า ถ้างั้น หากเรารับประทานเฉพาะผลไม้ ร่างกายเราคงดีแน่ๆ คงจะไม่เป็นสิวอีกต่อไปเลย แต่หารู้ไม่ว่า หากรับประทานอะไรอย่างเดียวเยอะๆ เกินความจำเป็น ไม่ได้ก่อประโยชน์ใดๆ เลย มีแต่จะเกิดโทษต่อร่างกาย</div><table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-7WC9LwkPArM/T3Va8xfaxlI/AAAAAAAAAMU/6BmrG61UPv4/s1600/apple.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" src="http://4.bp.blogspot.com/-7WC9LwkPArM/T3Va8xfaxlI/AAAAAAAAAMU/6BmrG61UPv4/s1600/apple.jpg" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b>แอปเปิ้ล</b></td></tr>
</tbody></table><table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-_i3OT88PgEg/T3Va_ovNYPI/AAAAAAAAAMk/TQEl7a4JCkg/s1600/grapefruit.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" src="http://1.bp.blogspot.com/-_i3OT88PgEg/T3Va_ovNYPI/AAAAAAAAAMk/TQEl7a4JCkg/s1600/grapefruit.jpg" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b>เกรปฟรุต</b></td></tr>
</tbody></table><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"></div><h2 style="color: blue;"> <b>รับประทานผลไม้มากเกินไปทำให้เกิดสิวได้ </b></h2><div style="color: blue;">จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายคุณหากคุณรับประทานผลไม้มากเกินไป นั่นก็คือ ร่างกายคุณจะได้รับประมาณน้ำตาลจำนวนมาก นอกจากนั้น การรับปทานผลไม้เยอะจะทำให้ร่างกายคุณมีสภาวะเป็นกรดอ่อนๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ต้องการให้เกิดขึ้นกับร่างกายเรา ดังนั้น หลังจากที่ผมทราบเรื่องนี้แล้ว จึงเริ่มปรับการรับประทานอาหาร โดยเพิ่มอาหารจำพวกผักสดเข้ามา จะช่วยให้ร่างกายเกิดสมดุลมากยิ่งขึ้น ด้านล่างนี้เป็นรายชื่อผลไม้ที่สามารถช่วยรักษาสิวได้ หากเรารับประทานแต่พอดี</div><div style="color: blue;"></div><div style="color: blue;"><br />
</div><ul style="color: blue;"><li><b>อาโวคาโด้</b></li>
<li><b>กีวี</b></li>
<li><b>แอปเปิ้ล</b></li>
<li><b>ส้ม</b></li>
<li><b>องุ่น</b></li>
<li><b>ลูกแพร์ </b></li>
<li><b>เกรปฟรุต</b></li>
</ul><div style="color: blue;"><br />
</div><table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: left; margin-right: 1em; text-align: left;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-XNUz5khtxEw/T3VbArHLLcI/AAAAAAAAAMs/wWrfjaFXaSo/s1600/kiwi.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" src="http://1.bp.blogspot.com/-XNUz5khtxEw/T3VbArHLLcI/AAAAAAAAAMs/wWrfjaFXaSo/s1600/kiwi.jpg" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><b>กีวี</b></td></tr>
</tbody></table><div style="color: blue;">การรับประทานผลไม้ในปริมาณที่พอเหมาะในแต่ละวันย่อมดีต่อร่างกายของคุณ เนื่องจากผลไม้ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารของคุณดีขึ้น ทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายสมดุล ช่วยเพิ่มน้ำในร่างกาย และยังให้วิตามินที่จำเป็นต่างๆ ต่อร่างกายอีกด้วย ข้อแนะนำคือ อย่ารับประทานมากจนเกินไป ส่วนใหญ่แล้วผมจะรับประทานประมาณวันละ 2 ครั้ง ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นส้ม ไม่ก็แอปเปิ้ล แต่ว่าถ้าคุณจะรับประทานผลไม้ตามรายการข้างบนที่ช่วย<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>รักษาสิว</b></a> ก็อย่าลืมรับประทานพวกผักสดด้วย เพื่อควบคุมให้ร่างกายไม่ได้รับน้ำตาลมากเกินไป</div>Gustdiihttp://www.blogger.com/profile/04580720651699750937noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-2329408645050001291.post-14332081493305971722012-03-22T15:59:00.001+07:002012-03-22T15:59:56.599+07:00ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ช่วยรักษาสิวได้จริงหรือไม่?<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-KIhZNqcvuF8/T2rpyK1wViI/AAAAAAAAALQ/trijfedH0EE/s1600/%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://4.bp.blogspot.com/-KIhZNqcvuF8/T2rpyK1wViI/AAAAAAAAALQ/trijfedH0EE/s1600/%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3.jpg" /></a></div><b>คำถาม:</b> ดื่มน้ำเยอะๆ สามารถ<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>รักษาสิว</b></a> หรือป้องกันสิวได้จิงหรือไม่? และ ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว จะช่วยให้ผิวหน้าสะอาด ใส จริงหรือไม่?<br />
<br />
<b>คำตอบ: </b>คำตอบคือ <span style="font-size: large;"><u><b>ไม่</b></u></span> ในทางทฤษฏีฟังแล้วเหมือนดูดี แต่จริงๆ แล้วมันยังไม่ถูกต้องเท่าไหร่ เพราะยังไม่มีการศึกษาตามหลักวิชาการใดๆ พิสูจน์ได้ว่าการดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว จะทำให้ผิวสะอาด ใส และสุขภาพดี มันเป็นเพียงความเชื่อที่พูดต่อๆ กันมาเพียงเท่านั้น<br />
<br />
<u><b>ดื่มเมื่อตอนกระหายน้ำ</b></u><br />
การดื่มน้ำควรดื่มเมื่อคุณกระหายน้ำ หากคุณไม่กระหายน้ำ ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดื่ม<br />
<b><br />
</b><br />
<u><b>ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว</b></u><br />
ปัจจัยที่ทำสิวเกิดมากขึ้นได้แก่ ความเครียด ภาวะไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย และความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร<br />
<br />
<b><u>การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งที่สำคัญ</u></b><br />
แม้ว่าเราจะไม่จำเป็นจะต้องดื่มน้ำให้ครบวันละ 8 แก้ว แต่เราก็ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอกับปริมาณที่ร่างกายต้องการ เพราะน้ำถือว่าเป็นสิ่งที่ร่างกายไม่สามารถขาดได้ สำหรับใครที่กำลังดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น น้ำถือว่าเป็นเครื่องดื่มหลักที่ควรดื่ม มากกว่าพวกเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรือน้ำอัดลม<br />
<br />
<span style="font-size: x-small;"><b>ที่มา:</b> http://healing.about.com/od/diets/f/acne-water.htm</span>Gustdiihttp://www.blogger.com/profile/04580720651699750937noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2329408645050001291.post-73956577929681787512012-03-20T22:53:00.000+07:002012-04-25T15:04:43.120+07:00ว่านหางจระเข้รักษาสิวอักเสบได้จริงหรือ<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-yuMghzmpgfc/T2inwEfDclI/AAAAAAAAALA/vMD1GgxkrUE/s1600/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="201" src="http://1.bp.blogspot.com/-yuMghzmpgfc/T2inwEfDclI/AAAAAAAAALA/vMD1GgxkrUE/s320/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89.jpg" width="320" /></a></div>ว่านหางจระเข้ สมุนไพรพื้นบ้านของไทยเรามีสรรพคุณที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่งในการ<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>รักษาสิว</b></a>อักเสบ เนื่องจากว่าว่านหางจระเข้มีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและสมานแผลที่เกิดจากสิวอักเสบ ทำให้สิวอักเสบยุบได้อย่างรวดเร็ว วันนี้ทางทีมงานจึงอยากจะแนะนำสูตรการรักษา<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/p/inflammatory-acne.html"><b>สิวอักเสบ</b></a>ด้วยว่านหางจระเข้ เรามาดูวิธีทำกันเลยครับ<br />
<br />
ก่อนอื่นนำว่านหางจระเข้ไปแช่น้ำ ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้ยางสีเหลืองๆ ออกมา จากนั้นนำไปปอกเปลือกออกให้เหลือไว้แต่วุ้นใสๆ นำไปล้างเอายางเหลืองๆ ออกให้หมด จากนั้นนำไปหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ บางๆ หรือบดให้ละเอียด คั้นเอาแต่น้ำมาใช้<br />
<br />
<b>วิธีใช้: </b>ทำไปทาบริเวณที่เป็นสิวอักเสบวันละ 1-2 ครั้ง <a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>สิวอักเสบ</b></a>ก็จะยุบและแห้งเร็วขึ้น (ความชอบส่วนตัวน่ะครับ ผมชอบเอาไปแช่ตู้เย็นไว้ เวลาทาจะรู้สึกเย็นๆ ดี)Gustdiihttp://www.blogger.com/profile/04580720651699750937noreply@blogger.com4tag:blogger.com,1999:blog-2329408645050001291.post-59197675842657892822012-03-19T15:27:00.000+07:002012-03-19T15:27:55.811+07:00ผัก ผลไม้สด ถั่วและเมล็ดพืช ช่วยรักษาสิวได้<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/" style="clear: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" height="150" src="http://3.bp.blogspot.com/-cF25XS0hU5k/T2bs-CyJvAI/AAAAAAAAAK4/udM1uETbrm8/s200/%25E0%25B8%259C%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2581+%25E0%25B8%259C%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%2594.jpg" width="200" /></a></div>วันนี้ทางทีมงานมี Tip ดีๆ ในการ<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>รักษาสิว</b></a>มาแนะนำเพื่อนๆ น่ะครับ นั่นก็คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการรับประทานอาหารนั่นเอง โดยเพิ่มอาหารประเภทผัก ผลไม้สด ถั่วและเมล็ดพืชต่างๆ ให้มากขึ้นในอาหารแต่ละมื้อ วิธีการง่ายในการเพิ่มอาหารเหล่านี้ในอาหารของคุณคือ ให้นำผลไม้สุกต่างๆ นำมาปั่นทำน้ำผลไม้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำแตงโม แตงไทย มะม่วง แอปเปิ้ล เยอะแยะอีกมากมายแล้วแต่คุณจะชอบน่ะครับ และนอกจากนั้น ในอาหารแต่ละมือควรเพิ่มสลัดผักเข้าไปด้วย ส่วนอาหารว่างก็หันมาใช้พวกผลิตภัณฑ์จากถั่วประเภทแต่ง เมล็ดพืช เช่น เมล็กฟักทอง เป็นต้น เนื่องจากว่าอาหารประเภทผัก ผลไม้สด ถั่วและเมล็ดพืชต่างๆ จะมีสารประเภท selenium และสังกะสีเยอะ โดยปกติแล้วร่างกายหากขาดสารเหล่านี้จะทำให้เกิดสิวได้ง่ายน่ะครับ<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"></div>เมื่อรู้เทคนิค เคล็ดลับดีๆ ในการ<b><a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/">รักษาสิว</a></b> และป้องกันสิวไม่ให้เกิดขึ้นแล้ว ก็ลงมือปฏิบัติกันได้เลยน่ะครับ ลองปรับเปลี่ยนเมนูอาหารที่ทานในแต่ละมื้อดู อาจจะช่วยแก้ปัญหา<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/p/acne.html"><b>สิว</b></a>ให้กับเพื่อนๆ ได้น่ะครับ ไม่ลอง ไม่รู้ จริงมั้ยGustdiihttp://www.blogger.com/profile/04580720651699750937noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-2329408645050001291.post-74902567523465802852012-03-14T17:05:00.003+07:002012-03-19T14:19:34.216+07:00วิธีรักษาสิวอุดตันให้อยู่หมัด<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://2.bp.blogspot.com/-DsEY-fBs6pY/T2BwEL0cebI/AAAAAAAAAKw/b8iHqgd1XnQ/s1600/Tretinoin.jpg" /></a></div>วันนี้ทางทีมงานมี<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>วิธีรักษาสิวอุดตัน</b></a>อย่างถูกวิธีมานำเสนอน่ะครับ อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสิวอย่างใกล้ชิดด้วยน่ะครับ เพราะผิวแต่ละคนจะตอบสนองต่อวิธีการรักษา และยารักษาสิวต่างๆ ได้ไม่เหมือนกัน<br />
<br />
1. ครีมทาสิวอุดตัน กลุ่ม Tretinoin( Retin-A) เป็นยาที่เหมาะสมและใช้กันแพร่หลาย มีความเข้มข้นแตกต่างกัน ตั้งแต่ 0.025-0.1 % อาจอยู่ในรูปของครีม เจล หรือน้ำ โดยพบว่ายิ่งความเข้มข้นสูง ยิ่งละลายสิวอุดตันได้ดี แต่ก็จะระคายเคืองผิวหน้า และทำให้ผิวหน้าแห้งเป็นขุย ถ้าความเข้มข้นสูง แต่การละลายเคืองอาจน้อยลง ถ้าล้างหน้าก่อนทายา 10-15 นาที <br />
<br />
2. ยารับประทานกลุ่ม retinoids เช่น Roaccutane,Isotretionoin ช่วยลดปัญหาผิวมัน และละลาย<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>สิวอุดตัน</b></a>ได้ดี ทั้งที่ใบหน้าและสิวตามลำตัว <br />
<br />
3. ยาลอกขุย (Keratolytic agents) และยาทำให้ผิวแห้ง เช่น Salicylic acid ,Resorcinol,Sulphur,Aluminium oxide มักช่วยลอกขุย และทำให้สิวแห้งและหลุดออก มักใช้เป็นส่วนผสมของแป้งน้ำทาสิว( acne lotions) <br />
<br />
4. การกดสิวอุดตัน มักจะทำได้เฉพาะกลุ่มสิวอุดตันหัวเปิด (สิวหัวดำ) เพราะจะหลุดออกได้ง่าย และควรทำโดยผู้ที่เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็นภายหลัง <br />
<br />
5. การทำ Peeling ด้วย 30-50% TCA,PHA จะช่วยทำให้ผิวหน้าแห้งลง ผนังสิวบางลง ทำให้สิวอุดตันฝ่อตัว และหลุดออกได้ง่าย<br />
<br />
6. การทำ Iontophresis มักใช้ร่วมกับยากลุ่ม Tretionoin เพื่อช่วยผลักยาให้ซึมลงลึกไปละลายสิวอุดตันได้ดีกว่า การทายาปกติ <br />
<br />
7. การกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี ( Microdermabrasion) พบว่าทำให้หัวสิวอุดตันหลุดออกได้ง่าย ทำให้หัวสิวเปิดออกเพื่อกดออกภายหลังได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ผิวหน้าแห้งลง และสีผิวขาวขึ้น เรียบเนียนขึ้นได้ด้วย <br />
<br />
หวังว่าแนวทางในการ<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/"><b>รักษาสิว</b></a>อุดตันนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังประสบปัญหาเรื่อง<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/p/comedone.html"><b>สิวอุดตัน</b></a>อยู่บ้างน่ะครับ ขอให้หายไวๆ น่ะครับทุกคนGustdiihttp://www.blogger.com/profile/04580720651699750937noreply@blogger.com3tag:blogger.com,1999:blog-2329408645050001291.post-64694807960101971822011-08-10T02:36:00.002+07:002012-03-15T09:17:17.817+07:00วิธีป้องกันการเกิดสิวอย่างเห็นผลชัดเจน<div style="color: #e69138;"><span style="font-size: large;"><b> วิธีป้องกันการเกิดสิวด้วยวิธีธรรมชาติ</b></span></div><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-BmdfgIuS_z8/TkGN4dwM0nI/AAAAAAAAAEQ/y09WC5Nwrkw/s1600/%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%259B%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A7.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="139" src="http://1.bp.blogspot.com/-BmdfgIuS_z8/TkGN4dwM0nI/AAAAAAAAAEQ/y09WC5Nwrkw/s200/%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%259B%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A7.jpg" width="200" /></a></div>สิวเป็นปัญหาที่ก่อกวนใจหลายๆ คน เพราะถ้าเป็นสิวมากๆ ก็อาจทำให้อาย ไม่ก็ขาดความเชื่อมั่นในตัวเองไปเลย สำหรับคนที่กำลังประสบปัญหาเรื่องสิวอยู่นั้น ส่วนมากจะได้รับคำแนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรักษาโดยใช้ยารักษาสิวต่างๆ ที่มีอยู่ตามท้องตลาด จริงๆ แล้วยังมี<b>วิธีป้องกันการเกิดสิว</b>ด้วยวิธีธรรมชาติอีกวิธีนึง ซึ่งเห็นผลชัดเจนไม่แพ้วิธีรักษาสิวด้วยยารักษาสิว บางครั้งการรักษาสิวด้วยวิธีธรรมชาติอาจจะเห็นผลมากกว่าการใช้ยาหรือครีมรัีกษาสิวด้วยซ้ำ บางครั้งสิ่งที่ร่างการของเราต้องการทั้งหมดก็คือการควบคุมสารอาหารในร่างกายให้สมดุลและการดูแล รักษาผิวที่ถูกต้อง วันนี้เรามี<b>วิธีป้องกันการเกิดสิว</b>ดีๆ มาแนะนำให้เพื่อนได้ลองปฏิบัติตามกัน ถ้าหากสามารถปฏิบัติได้ตาม<b>วิธีป้องกันการเกิดสิว</b>ที่แนะนำในวันนี้ คาดว่าจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นประมาณ 4 สัปดาห์ เรามาดูกันเลยครับ<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"></div><ul><li><b style="color: #e69138;">ใช้น้ำผึ้งพอกหน้าอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง</b> โดยน้ำผึ้งนี้จะมีส่วนช่วยให้ป้องกันเชื้อแบคทีเรีย ทำให้หน้าสะอาด กำจัดสิวเสี้ยน และน้ำผึ้งยังไม่เป็นอันตรายต่อผิวที่แพ้ง่ายอีกด้วย </li>
<li><b style="color: #e69138;">ล้างหน้าด้วยสบู่รักษาสิว</b> ประมาณวันละ่ 2 ครั้ง ครั้งแรกให้ล้างหน้าตอนตื่นนอน ส่วนครั้งที่สองให้ล้างหน้าก่อนที่จะเข้านอน เวลาล้างหน้าไม่ควรขัดหน้าแรงๆ หรือใช้ผ้าแข็งๆ ถูกหน้า และไม่ควรล้างหน้าบ่อยเกินวันละ 2 ครั้ง เนื่องจากว่า หากล้างหน้าบ่อยหน้าจะแห้ง และร่างกายจะกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตไขมันออกมาหล่อลื่นผิวมากเกินไป เป็นสาเหตุให้เกิดผิวมายิ่งขึ้น</li>
<li><b><span style="color: #e69138;">ระวังอย่าให้เส้นผมมาถูบริเวณใบหน้า</span></b> โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นสิวเยอะๆ เนื่องจากเส้นผมจะมีน้ำมันเคลือบอยู่ อาจจะทำให้เป็นสิวมากขึ้น ควรสระผมทุกวัน โดยเฉพาะหลังจากที่ออกกำลังกายเสร็จ</li>
<li><b style="color: #e69138;">รับประทานแครอท</b> เนื่องจากมีสารเบต้า แคโรทีนมาก (วิตามิน เอ) วิตามิน เอ ช่วยให้เนื้อเยื่อของผิวหนังแข็งแรงขึ้นและ่ช่วยป้องกันการเกิดสิว วิตามิน เอ ยังช่วยลดไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ นอกจากนี้ วิตามิน เอ ยังเป็นสาร antioxidant ช่วยกำจัดสารพิษในร่างกาย หากร่างกายขาดวิตามิน เอ จะส่งผลให้เกิดปัญหาเรื่องสิวอีกด้วย </li>
<li><b style="color: #e69138;">หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า </b>เนื่องจากเครื่องสำอางจะทำให้เกิดการอุดตันบริเวณรูขุมขน เป็นสาเหตุให้เกิดสิว หากจำเป็นจะต้องแต่งหน้า ควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำเป็นหลัก</li>
<li><b style="color: #e69138;">อย่าแกะหรือบีบสิว</b> เนื่องจากจะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตไขมันใต้ผิวหนังเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งส่งผลให้เนื้อเยื่อที่อยู่ใต้ผิวหนังที่เราบีบสิวจะอักเสบ ส่งผลให้มีการติดเชื้อ ไขมันกระจายไปบริเวณใต้ดินหนัง และท้ายที่สุด ทำให้เกิดสิวมากยิ่งขึ้น </li>
<li><b style="color: #e69138;">ซักปลอกหมอนบ่อยๆ</b> เนื่องจากใบหน้าของเราต้องสัมผัสกับปลอกหมอนทุกวัน ปลอกหมอนจะมีไขมันจากผิวหนังของเราผิดอยู่ และมีพวกฝุ่นปนอยู่ด้วย อาจจะทำให้เกิดสิวได้ ดังนั้น เราควรซักปลอกหมอนของเราให้สะอาดอยู่เสมอ</li>
<li><b style="color: #e69138;">รับประทานอาหารที่มีธาตุสังกะสี</b> เนื่องจากธาตุสังกะสีนี้จะช่วยให้ผิวหนังต่อต้านเชื้อแบคทีเรียได้ดี ธาตุสังกะสีเป็นตัวควบคุมการผลิตไขมันของต่อมไขมันใต้ผิวหนัง หากร่างการขาดธาตุสังกะสี จะทำให้เกิดปัญหาสิวได้ อาหารที่มีสังกะสีเยอะๆ ก็ได้แก่พวก ข้าวกล้อง หอยนางรม สาหร่ายทะเล เป็นต้น</li>
</ul>อย่าลืมน่ะครับ หากสามารถปฏิบัติได้ตาม<b>วิธีป้องกันการเกิดสิว</b>ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ สิวน่าจะลดได้อย่างเห็นผลภายใน 4 สัปดาห์ครับGustdiihttp://www.blogger.com/profile/04580720651699750937noreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-2329408645050001291.post-72068353797948196722011-08-10T00:52:00.000+07:002012-03-15T09:18:04.711+07:00วิธีรักษาสิวหัวดำแบบวิธีธรรมชาติด้วยน้ำผึ้ง<span style="color: #e69138; font-size: large;"><b>วิธีรักษาสิวหัวดำแบบวิธีธรรมชาติที่ทำได้เองที่บ้าน</b></span><br />
<br />
วันนี้ผมไปเจอสูตร<b>วิธีรักษาสิวหัวดำ</b>แบบวิธีธรรมชาติที่ทำได้เองที่บ้านมาฝากครับ เคล็ดลับนี้ฝรั่งเป็นคนคิดมา ยังงัยก็ลองเอาไปใช้ดูน่ะครับ มาดู<b>วิธีรักษาสิวหัวดำ</b>กันได้เลยครับ<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-lp2LQR832qM/TkFz199q7PI/AAAAAAAAAEM/k0G1j4tEFDM/s1600/%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A9%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B3%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B4.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="150" src="http://1.bp.blogspot.com/-lp2LQR832qM/TkFz199q7PI/AAAAAAAAAEM/k0G1j4tEFDM/s200/%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A9%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B3%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B4.jpg" width="200" /></a></div><b style="color: #e69138;">ขั้นที่ 1</b> เตรียมน้ำผึ้งประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ และน้ำตาลประมาณ 1 ถ้วย<br />
<b><span style="color: #e69138;">ขั้นที่ 2</span></b> ผสมน้ำผึ้งและน้ำตาลเข้าด้วยกัน จากนั้นเราจะได้ scrub ที่มีส่วนผสมระหว่างน้ำตาลกับน้ำผึ้ง เนื้อ scrub จะหยาบๆ หน่อยน่ะครับและจะมีกลิ่นหวานๆ ด้วย (อิอิ ชัวร์อยู่แล้ว)<br />
<b style="color: #e69138;">ขั้นที่ 3</b> นำ scrub ที่เราเตรียมไว้มาขัดหน้าบริเวณที่ต้องการรักษาสิวหัวดำ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาที น้ำผึ้งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้าด้วย เพราะน้ำผึ้งมีคุณสมบัติเป็น moisterizer <br />
<b style="color: #e69138;">ขั้นที่ 4</b> จากนั้นล้างหน้าให้สะอาด เช็ดหน้าให้แห้ง สิวหัวดำจะหลุดลอกออกจากผิวหน้าของคุณ<br />
<br />
ลองนำวิธีรักษาสิวหัวดำที่บอกไว้ไปลองทำดูน่ะครับ เป็น<b>วิธีรักษาสิวแบบธรรมชาติ</b> ไม่มีสารเคมีใดๆ ปนเปื้อน รับรองได้ว่าไม่มีอันตรายใด ลองดูครับGustdiihttp://www.blogger.com/profile/04580720651699750937noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2329408645050001291.post-13747238930943789732011-08-07T17:21:00.000+07:002012-03-15T09:20:54.689+07:00วิธีลบรอยแผลเป็นจากสิวด้วยแอปเปิ้ลเขียวไม่น่าเชื่อว่าแอปเปิ้ลเขียวที่เราทานกันอยู่นี้จะมีคุณสมบัติในการลบรอยแผลเป็นจากสิวได้ด้วย วันนี้เราีมีเคล็ดลับดีๆ ในการลบรอยแผลเป็นจากสิวด้วยแอปเปิ้ลเขียวมาฝากน่ะครับ เรามาดูวิธีการทำกันเลยครับ<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"></div><span style="font-size: large;"><b style="color: #e69138;">วิธีลบรอยแผลเป็นจากสิวด้วยแอปเปิ้ลเขียว </b></span><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-t5iqp2LhN7Y/Tj5mzwrYndI/AAAAAAAAAD4/SO9tN-SXnSM/s1600/%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%259C%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259B%25E0%25B9%2587%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%259B%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B4%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2582%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="148" src="http://1.bp.blogspot.com/-t5iqp2LhN7Y/Tj5mzwrYndI/AAAAAAAAAD4/SO9tN-SXnSM/s200/%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%259C%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259B%25E0%25B9%2587%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%259B%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B4%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2582%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7.jpg" width="200" /></a></div><ul><li>เริ่มต้นด้วย การล้างหน้าให้สะอาด ใช้ผ้าซับให้แห้ง </li>
<li>จากนั้นนำเนื้อแอปเปิ้ลเขียวครึ่งผล ผสมกับน้ำผึ้งแท้ 1 ช้อนโต๊ะ บดรวมกันให้ละเอียดจนเป็นเนื้อเดียวกัน</li>
<li>ทาให้ทั่วใบหน้า เน้นบริเวณที่เป็นแผลเป็น </li>
<li>ทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที แล้วล้างออก </li>
</ul><br />
สูตรนี้สามารถทำได้ทุกวันน่ะครับ เพียงเท่านี้รอยแผลเป็นจากสิวก็จะจางลง นำไปทดลองใช้กันได้น่ะครับ<br />
<br />
<span style="font-size: x-small;"><b>ที่มา:</b> http://www.ranthong.com</span>Gustdiihttp://www.blogger.com/profile/04580720651699750937noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-2329408645050001291.post-5612278786115835912011-08-07T16:14:00.000+07:002012-03-15T09:19:26.157+07:00วิธีรักษาสิวหัวช้างด้วยน้ำมะนาวสดเชื่อว่าหลายคนคงเคยเป็นสิวหัวช้างมาก่อน และรับรู้ถึงความเจ็บปวดของการเป็นสิวหัวช้างมาบ้างแล้ว สำหรับท่านใดที่กำลังมองหา<b>วิธีรักษาสิวหัวช้าง</b>อยู่ วันนี้เรามีวิธีรักษาสิวแบบธรรมชาติ โดยใช้น้ำมะนาวสดมาช่วยในการรักษาสิวหัวช้างเพื่อนๆ สามารถนำไปทดลองใช้กันได้น่ะครับ<br />
<br />
<span style="color: #e69138; font-size: large;"><b>เรามาดูวิธีรักษาสิวหัวช้างด้วยน้ำมะนาวสดกันเลย สิ่งของที่ต้องเตรียม มีดังนี้</b></span><br />
<ul><li>มะนาวสด 1 ลูก บีบเอาแต่น้ำ แยกเม็ดออก</li>
<li>สำลีพันปลายไม้</li>
</ul><div style="color: #e69138;"><br />
</div><div style="color: #e69138;"><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-6APt507eYgo/Tj5YEy6Ux3I/AAAAAAAAAD0/VxIzfL_Zk7U/s1600/%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A9%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%258A%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B3%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%2594.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="138" src="http://3.bp.blogspot.com/-6APt507eYgo/Tj5YEy6Ux3I/AAAAAAAAAD0/VxIzfL_Zk7U/s200/%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A9%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%258A%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B3%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%2594.jpg" width="200" /></a></div><span style="font-size: large;"><b>วิธีรักษาสิวหัวช้างด้วยน้ำมะนาวสด</b></span></div>นำสำลีพันปลายไม้ที่เตรียมไว้ จุ่มน้ำมะนาวสด และนำไปแตะและทารอบๆ บริเวณที่สิวหัวช้างเกิด โดยทำทุกๆ ครึ่งชั่วโมง ติดต่อกันตลอดทั้งวัน ถ้าหากเป็นช่วงเวลาตอนกลางคืนให้ทาทิ้งไว้เลย และตอนตื่นเช้ามาให้รีบนำน้ำมะนาวสดมาแตะอีก ทุกๆ 30 นาทีเหมือนเดิม <br />
<br />
<div style="color: #e69138;"><span style="font-size: large;"><b>ผลลัพธ์ของการรักษาสิวหัวช้างด้วยน้ำมะนาวสด</b></span></div>หากเราทำอย่างต่อเนื่อง สิวหัวช้างจุค่อยๆ ยุบตัวลงภายใน 9 ชั่วโมง<br />
<br />
ลองไปทดลองทำดูน่ะครับ<br />
<br />
<span style="font-size: x-small;"><b>ที่มา:</b>http://www.acnethai.com </span>Gustdiihttp://www.blogger.com/profile/04580720651699750937noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2329408645050001291.post-32260875017974408282011-08-07T00:46:00.002+07:002012-03-22T13:49:29.542+07:00อะไรคือสาเหตุของการเกิดสิว?<span style="font-size: x-large;"><b>สาเหตุของการเกิดสิว แบ่งเป็น 3 หัวข้อใหญ่คือ</b></span><br />
<br />
<ol><li>ร่างการมีการผลิต sebum มากเกินไปทำให้หน้ามัน จนเป็นสาเหตุของการเกิด<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/">สิว</a></li>
<li>มีความผิดปรกติในการกำจัดผิวหนังที่ตายแล้ว ทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขนทำให้เกิดการอักเสบ</li>
<li>สิวที่มีสาเหตุมาจากแบคทีเรีย</li>
</ol><br />
<span style="font-size: large;"><b>สาเหตุของการเกิดสิว</b></span> จะเกิดขึ้นเมื่อรูขุมขนเกิดการอุดตันจากไขมันหรือผิวหนังที่ตายแล้ว รูขุมขนจะเชื่อมต่อกับต่อมไขมัน ซึ่งต่อมไขมันใต้ผิวหนังนี้จะทำหน้าที่ในการสร้างไขมันที่เรียกว่า sebum และขับออกมาเพื่อให้เส้นผมและผิวหนังชุ่มชื่น ลื่น ไม่แห้ง โดยปกติแล้ว sebum จะไหลออกจากทางรูขุมขนและกระจายไปตามผิวหนัง แต่เมื่อมีการผลิต sebum มากเกินความจำเป็น บวกกับเศษผิวที่ตายแล้วที่ติดอยู่บริเวณผิวหนัง ทั้งสองสิ่งนี้จะก่อตัวกันเป็นเม็ดและอุดตันบริเวณรูขุมขนจนกลายเป็น<a href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A7" rel="nofollow" style="color: grey;">สิว</a><br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-s9iwdzqKOZs/Tj19czLZYvI/AAAAAAAAACQ/NNcX_YWuDes/s1600/How+acne+develops.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="200" src="http://4.bp.blogspot.com/-s9iwdzqKOZs/Tj19czLZYvI/AAAAAAAAACQ/NNcX_YWuDes/s200/How+acne+develops.jpg" width="200" /></a></div>ถ้าเม็ดที่อุดตันนี้อยู่ในช่องรูขุมขนอาจทำให้เกิดสิวอักเสบที่เป็นหัวสีขาวๆ ได้ แต่ถ้าเม็ดที่อุดตันนี้โผล่ขึ้นไปถึงผิวหนังด้านบนจะทำให้เกิดสิวหัวดำขึ้นได้ สิวที่มีลักษณะเป็นเม็ดสีแดงๆ ล้อมรอบหัวสีขาวนั้นมีสาเหตุเกิดมาจากรูขุมขนที่มีการอุดตันเกิดการอักเสบและติดเชื้อ ส่วนต่อมเหงื่อนั้น โดยปกติแล้วจะไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดสิวแต่อย่างใด<br />
<br />
ณ ตอนนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ร่างกายผลิต sebum มากกว่าปกติ ปัจจัยที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการผลิต sebum ได้แก่ ฮอร์โมน แบคทีเรีย ยาบางชนิดและพันธุกรรม<br />
<br />
ในทางกลับกัน บางคนคิดว่า อาหารที่มีปริมาณไขมันสูงและชอคโกแลตอาจจะเป็น<b>สาเหตุของการเกิดสิว</b> จากการศึกษาที่กำดังดำเนินการอย่างต่อเนื่องพบว่าการควบคุมอาหาร โดยบริโภคเฉพาะอาหารที่มีแป้งในปริมาณมาก เช่นพวก ขนมปัง เบเกิล และมันฝรั่งทอด จะทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น อาจจะส่งผลให้เป็นสาเหตุของการเกิด<a href="http://thaiacnecare.blogspot.com/p/acne.html">สิว</a>ได้<br />
<br />
ฝุ่นละอองต่างๆ ไม่ใช่<i>สาเหตุของการเกิดสิว</i>อย่างแท้จริง ในความเป็นจริงนั้น คนส่วนใหญ่มักจะขัดผิวหน้า หรือใช้สบู่หรือโฟมล้างหน้าที่มีผลต่อการลอกเซลล์ผิว การกระทำดังกล่าว อาจทำให้เกิดสิวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ในทางกลับกัน แค่เราล้างหน้าปกติเพื่อล้างไขมันส่วนเกินและเศษผิวหนังที่ตายออกก็เพียงพอแล้วที่จะป้องกันไม่ให้เกิดสิวGustdiihttp://www.blogger.com/profile/04580720651699750937noreply@blogger.com2